ห้องที่ ๑๕๗ : หม่อมราชวงษพระเจริญ


           สุริวงษราเมศรไท้ ทรงธรรม์
เสวยศุขมไหสวรรย์ เศกสร้าง
สีดาวิมลขวัญ เนตรคู่ ครองนา
อยุทธยายศอ้าง เอกแม้นเมืองสรวง
           ผ่านภพสบสวัสดิไร้ โรคา พาธเฮย
จนพระนางสีดา นาฎน้อง
ทรงครรภนับมาศา สามล่วง แล้วแฮ
พระจักกฤษณสถิตย์ห้อง หากร้อนหฤไทย
           ใคร่ประพาศพนัศด้าว แดนอา รัญเฮย
จึ่งเสดจออกเสนา นบน้อม
สถิตย์พระแท่นบัญชา ตรัสสั่ง
ให้จัดเตรียมจงพร้อม พรุ่งเช้าชมไพร
           สุมันตันรับแล้ว บังคม ลาแฮ
หมายบอกทุกหมวดกรม เร่งร้อน
สารวัดตรวจครบสม เหมือนสั่ง
ตามอย่างโพนประพาศต้อน หมู่เข้าขบวนคอย
           พลปืนถือล้วนเหล่า ลำพัน
พลดาบสกรรจ์สรร ทัดสู้
พลง้าวคร่ำสุวรรณ์ แสงวาบ
พลหอกหัดชำนิรู้ รอบแกล้วกลางสมร
           กุญชรกองหน้าแกว่น รณรงค์
กองถัดอัศดรยง ยิ่งซ้อม
กองหลวงรักษาองค์ อาจต่อ ยุทธแฮ
เกณฑ์แห่กองหลังพร้อม เสรจไว้ในสนาม
           ราตรีมหิศวเรศท้าว ไสยา
พระลักษมีเสน่หา ร่วมห้อง
แปดหมื่นสี่พันนา รีนาฎ สนมแฮ
ขับประโคมแซ่ซ้อง ศัปทให้หฤไทยเปรม
          สางสางแสงสุริยแผ้ว ปัถพี
กำหนดแน่ราตรี รุ่งเร้า
ตื่นสรงภักตร์ผ่องศรี เสาวภาคย์
ชวนพระลักษณ์เสดจเข้า สู่ห้องสรงสนาน
           พนักงานไขสุหร่ายฟุ้ง เฉกฝน
สองพระองค์สรงชล ชุ่มแล้ว
ประทิ่นกลิ่นเสาวคนธ์ จรุงรศ รื่นนา
ทรงสอดสนับเพลาแพร้ว เพริศล้วนเชิงงอน
           ภูษาสีต่างพื้น ทองพราย
ฉลองพระองค์สภักสาย ตาบสร้อย
วงประวิชพรรณราย เรือนครุธ
มกุฎกรรเจียกห้อย บุษบ์แก้วแกมกาญจน
           สองทรงศรคู่ร้า รณรงค์
สองเสดจยังเกยอลง กฎแก้ว
สองสั่งเคลื่อนพลตรง ออกพระ ทวารแฮ
สองสถิตยบนรถแพร้ว พรั่งพร้อมพลผาย
           รถเทียมสามคู่ม้า เรวจร
ดุมประไพประภัศศร สุกแพร้ว
กงกำคร่ำแอกงอน งามรับ ธงแฮ
บุษบกบัลลังก์แก้ว กาบช้อยลอยกระจัง
           พระลักษณ์นั่งประนตหน้า หริพงษ์
ขุนรถขับเรียงองค์ อนุชไท้
เครื่องสูงครบสิ่งคง เดินคู่ ขนานนา
ปี่แซ่แตรสังขให้ ฆาฏฆ้องกลองผสาน
           พลหาญฃานโห่ก้อง กุลาหล
ทุกส่ำสำเริงรณ เกริกเร้า
เสียงเพียงพสุธาดล โทรมซุด
พร้อมกระบวนพลเข้า เฃตรแคว้นไพรสณฑ์
          เดินทางแถวพนัศเลี้ยว เลียบเนิน
ชมหลั่นบรรพตเขิน โขดซ้อน
จตุบททวิบาทเดิน เดียรดาษ ดงแฮ
เงาพฤกษเย็นร่มร้อน ชอุ่มชอื้อบังสูรย
           เบญวรรณโผจับหว้า รายเรียง
ดุเหว่าจับกระวานเสียง แซ่ซ้อง
เค้าโมงจับโมงเมียง หมายคู่
ยูงจับยูงยูงร้อง ร่ายฟ้อนแพนหาง
           เสือสีห์หมีเม่นเนื้อ กวางทราย
ลมั่งรมาดผาดผันผาย เผ่นเต้น
ลิงโผนโลดผอยหาย เหนน่า สนุกนิ์นอ
บ้างเที่ยวแอบฟุบเร้น พุ่มไม้ไพรพง
           พฤกษาชูช่อก้าน แกมใบ
ดอกดกผลดาษไสว สุกย้อย
พลหาญร่าเริงใน แนวพนัศ สฐานแฮ
เพลินหฤไทยใช่น้อย ที่ด้าวแดนดง
           ปางองค์ยุพยอดสร้อย สีดา
สถิตยแท่นห้องในปรา สาทแพร้ว
สนมนาฎเล่ห์ดารา รายรอบ จันท์รแฮ
ยามเมื่อจะคลาศแคล้ว บาทไท้สวามี
           พันเอินอุบัติร้อน สรรพางค์
ไป่ศุขหฤไทยลาง หลากล้ำ
เฉกนอนที่ในกลาง กองอัค คีนา
ลมพัดกระพือซ้ำ เทวศคลุ้มฤๅคลาย
           ชวนสนมนางนาฎทั้ง มวนมี
จากอาศน์ปราสาทลี ลาศเต้า
โดยฉนวนสู่นะที ตำหนัก น้ำแฮ
ถึงท่านาเรศรเจ้า รีบเร้าลงสรง
          กับอนงค์นางนาฎล้วน ลงสนาน
ดำผุดสุดสำราญ รรีกรี้
บ้างกระทุ่มชลธาร ฉฉานฉ่า
บ้างเล่นอยู่โยงลี้ ไล่คว้าหากัน
           กำนัลบางหมู่ร้อง โหยหวน
เพลงขับเพลงรับครวญ เคร่าคล้อง
ต่างนางต่างสำรวล เริงร่า
แทบท่านะทีซ้อง แซ่ล้วนเหล่าสุรางค์
           กษณะปิศาจใต้ ธรณี
นางอะดูลย์ยักษี ชื่อพร้อง
ทราบความว่าเทพี มาสระ สนานแฮ
อาฆาฏมาดหมายจ้อง จิตรร้ายฤษยา
           จักลวงทำเล่ห์ให้ สีดา
พลัดพรากจากพระรา เมศรไท้
คิดแล้วแหวกคงคา ขึ้นจาก ที่แฮ
ถึงฝั่งแฝงพุ่มไม้ หนึ่งแล้วร่ายมนต์
           บัดเดียวเพศยักษเพี้ยน แผกตน
เปนมนุษย์นางนฤมล ไม่ช้า
กรายกรรีบจรดล ถึงท่า สนานนา
น้อมเกษทูลว่าข้า บาทนี้ประมาทไป
           ไป่ทันพระแม่เจ้า เสดจสรง
โทษผิดอาญาคง ไป่แคล้ว
ฃอพระแม่เจ้าจง งดโทษ
ควรมิควรสุดแล้ว โปรดเกล้าคราวเดียว
           ฟังปิศาจใส่ไคล้ เคลือบกล
คิดว่าจริงไป่สน เท่ห์ถ้อย
ซึ่งมามิทันจน เจียนคลาศ เจ้าเอย
เราไม่ถือโทษน้อย เท่านั้นทำเนา

จบห้องที่ ๑๕๗

  เนื้อความกล่าวถึงพระรามครองกรุงอยุธยาจนนางสีดาทรงครรภ์ได้ ๓ เดือน พระองค์รุ่มร้อนพระทัยจึงเสด็จเที่ยวป่าพร้อมกับพระลักษณ์ ฝ่ายนางสีดาชวนนางสนมไปลงสรงที่ท่าน้ำ นางอดูลปีศาจ ลูกชิวหากับนางสำมนักขาซึ่งอยู่ใต้ธรณี มีความริษยาอาฆาต จึงคิดอุบายให้นางสีดาพลัดพรากจากพระราม นางขึ้นมาแล้วแฝงกายร่ายมนตร์แปลงร่างเป็นนางกำนัลของนางสีดา รีบไปที่ท่าน้ำแล้วทูลนางสีดาให้ยกโทษที่ตามขบวนเสด็จไม่ทัน นางสีดาหลงกลนางปีศาจจึงยกโทษให้